Ubiquite ผู้ชายครึ่งฝัน



ผู้ชายครึ่งฝัน
(Ubiquite)
นวนิยายฝรั่งเศส
ผู้เขียน : แคลร์ วัลเนียวิคซ์
ผู้แปล : วลัยภรณ์ นาคพันธุ์
บรรณาธิการต้นฉบับฝรั่งเศส :
อธิชา มัญชุนากร กาบูล็อง

บรรณาธิการ : ’ปราย พันแสง
สำนักพิมพ์ฟรีฟอร์ม
................
Ubiquite นวนิยายพิลึกพิลั่น ผลงานเป็นที่กล่าวขวัญฝีมือนักเขียนขายดีของฝรั่งเศส แคลร์ วัลเนียวิคซ์ เจ้าของผลงาน ‘เซนต์รีตา ผู้หญิงสีฟ้าครึ้มฝน’ ที่เคยสร้างปรากฏการณ์มาแล้วก่อนหน้านี้
..........
Ubiquit นวนิยายเรื่องแรก อันเป็นผลงานลำดับถัดมาของเธอได้รับการตีพิมพ์และได้รับการต้อนรับจากวงการวรรณกรรมฝรั่งเศสเป็นอย่างดีเช่นกัน ด้วยเรื่องราวผสมผสานในแนวสืบสวนสอบสวน แฟนตาซี เสียดสีสังคม นักวิจารณ์วรรณกรรมฝรั่งเศสขนานนามเธอว่าเป็น “เพชร” เม็ดหนึ่งของแวงการวรรณกรรมร่วมสมัยแห่งศตวรรษที่ 21
..............
Ubiquit เป็นเรื่องราวประหลาดล้ำที่เกิดขึ้นในชีวิตแสนเงียบเหงาของ อดัม โวลลาดิเยร์ พนักงานออฟฟิศหนุ่มผู้เงียบขรึม ที่ไม่เคยตั้งคำถามว่าตัวเองต้องการหรือชอบทำสิ่งใดในชีวิต ทว่ายังสามารถก้าวหน้าในอาชีพจนได้เป็นหัวหน้าฝ่ายบัญชี
...........
ตั้งงแต่เล็กจนโตอดัมคุ้นเคยกับกรอบเกณฑ์ของครอบครัว เคยชินกับการอยู่ในโอวาท ไม่เคยมีปากเสียงหรือความคิดเห็น จนกระทั่งวันหนึ่ง เกิดเหตุการณ์ประหลาด เมื่อมีคนเข้ามาทักผิดบ่อยๆ ว่าอดัมเป็นคนนั้นคนนี้แทบไม่ซ้ำหน้า
.........
เมื่อเขาเริ่มหาวิธีรับมือกับการทักผิด เช่นลองรับสมอ้างไปเรื่อยๆ ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางบุคลิกภาพและอุปนิสัย จากที่เป็นคนเฉิ่มๆ อดัมกลายเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์และเริ่มติดใจรูปแบบชีวิตคนอื่นที่เขาสมอ้างสวมรอยเข้าอย่างจังอดัมถลำลึกลงไปทุกที เมื่อเขาสวมรอยเป็นจอร์จ ฟงแดล หนุ่มชาวกรุงปารีสผู้รักงานศิลปะชั้นเลิศ กระทั่งได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ ‘รีตา’ สาวสวยประจำแกลเลอรี่และนักศึกษาประวัติศาสตร์ศิลป์ซึ่งเป็นคนรักของฟงแดลไปด้วยพร้อมกัน ทำให้อดัมถูกทำร้ายร่างกายจากชายกลุ่มหนึ่ง ที่ตามล่าตัวฟงแดลมานานแล้ว
.........
อดัมเพิ่งรู้ในตอนนี้เองว่าฟงแดลเป็นนักต้มตุ๋น กำลังสมคบคิดขโมยภาพเขียนอีโรติกอื้อฉาว ลอร์ริจีน ดู มงด์ ( )จากพิพิธภัณฑ์ดอร์เซย์ ทำให้อดัมก็เข้าไปเกี่ยวพันกับธุรกิจมืดอย่างเต็มตัว แต่อดัมยากจะถอนตัวเสียแล้ว เพราะจากการสวมรอยเป็นคนอื่น ทำให้อดัมค้นพบพรสวรรค์แท้จริงในการวาดภาพของตัวเอง นอกจากนี้ เขายังมีวิธีการลึกลับที่ทำให้เขาสามารถเดาใจผู้อื่นได้อย่างแม่นยำ ในขณะที่อดัมเริ่มถลำลงลึกไปทุกขณะ ‘รีตา’ผู้หญิงที่เขารักกลับเริ่มถอนตัวจากเขาทีละน้อย ….
ความโดดเด่นของเรื่อง Ubiquite คือการวางโครงเรื่องที่กระชับ สนุก น่าติดตาม แคลร์ วัลเนียวิคซ์ สามารถสอดประสานความสมจริงเข้าไว้กับจินตนาการที่เหลือเชื่อได้อย่างตื่นเต้นเร้าใจ แฝงความลึกลับชวนติดตาม พรั่งพร้อมด้วยอารมณ์ขันพอเหมาะพอดี ในการสะท้อนและเสียดสีสังคมฝรั่งเศสได้อย่างคมคายลุ่มลึกผ่านพฤติกรรมของตัวละคร ประวัติศาสตร์ศิลป์ร่วมสมัย นิรุกติศาสตร์ รวมถึงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับสถานที่และศาสนา ทำให้ผู้อ่านได้สัมผัสวัฒนธรรมในการชีวิตความเป็นอยู่ประจำวันของคนฝรั่งเศสได้เป็นอย่างดี และน่าจะชัดเจนใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากกว่าอย่างอื่น

สำหรับพัฒนาการของอดัมโวลลาดิเยร์ ตัวละครสำคัญ ได้สะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกนึกคิดของคนเราที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยอิทธิพลของสถานการณ์แวดล้อม โดยเฉพาะแง่มุมสำคัญเกี่ยวกับความรักและการค้นพบตัวเอง มันอาจจะเป็นเพียงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของชีวิต ที่ดูว่าจะไม่สลักสำคัญใดๆ หากแต่สามารถเข้ามามีอิทธิพลถึงขั้นเปลี่ยนแปลงชีวิตทั้งชีวิตได้

ขอเพียงแต่เราเรียนรู้ที่จะเปิดใจ เปิดรับสิ่งใหม่ๆ เข้ามาในชีวิตบ้าง แม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี สิ่งนี้เองที่เป็นจุดมุ่งหมายแท้จริงของเราในการจัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้ออกสู่สายตานักอ่านชาวไทย
........
เกี่ยวกับผู้เขียน :แคลร์ วัลเนียวิคซ์
เซนต์รีตา (Sainte Rita, patronne des causes désespérées) ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในภาษาฝรั่งเศสเมื่อปี 2003 เป็นผลงานรวมเรื่องสั้นเล่มแรกในชีวิตของ แคลร์ วัลเนียวิคซ์ (Claire Wolniewicz) นักเขียนหญิงรุ่นใหม่เชื้อสายโปแลนด์ ที่กำลังมาแรงในแวดวงการวรรณกรรมฝรั่งเศส
.............
แคลร์ วัลเนียวิคซ์ เกิดเมื่อปี 1966 จบการศึกษาด้านกฎหมายและบริหาร จากนั้นเธอก็เป็นนักกฎหมาย แผนกทรัพย์สินทางปัญญา (สาขาภาพยนตร์และสื่อสิ่งพิมพ์) เธอประทับใจคำพูดของโรลองด์ บาธ (Roland Barthe) นักคิดนักปรัชญาฝรั่งเศสที่ว่า “ข้าพเจ้าไม่เคยเสียเวลาอ่านครบถ้วนทุกอักษร อ่านเพียงใจความสำคัญก็เพียงพอแล้ว” ถ้อยคำนี้มีอิทธิพลต่อสไตล์การเขียนของเธอเป็นอย่างมาก
...........
ประกอบกับปัจจุบัน เธอเป็นนักข่าวอิสระที่ทำงานให้กับสำนักข่าวหลายแห่ง รวมทั้งทำงานเขียนบทละครโทรทัศน์ไปด้วยพร้อมกัน อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้งานเขียนของเธอมีเนื้อหาร่วมยุคทันสมัย สำนวนกระชับ กินใจ แฝงนัยะระหว่างบรรทัดมากมายให้ผู้อ่านได้ครุ่นคิดค้นหา
............
‘เซนต์รีตา’ หรือ ‘ผู้หญิงสีฟ้าครึ้มฝน’ เป็นผลงานเล่มแรกของ แคลร์ วัลเนียวิคซ์ ที่ได้รับการแปลและตีพิมพ์ในภาษาไทย ออกวางจำหน่ายเรียบร้อยแล้วโดยสำนักพิมพ์ฟรีฟอร์ม สำนวนแปลแพรวพราวของคุณวลัยภรณ์ นาคพันธุ์ น่าจะทำให้ผู้อ่านชาวไทยสัมผัสความคมเข้มในตัวหนังสือของนักเขียนหญิงรุ่นใหม่ผู้นี้ได้อย่างใกล้ชิด ในเล่มประกอบด้วยเรื่องสั้นขนาดยาว(มากๆ)ทั้งหมดหกเรื่อง โดยที่ตัวเอกในเรื่องสั้นแต่ละเรื่อง มีบุคลิกภาพ ภูมิหลังและชะตากรรมชีวิตแตกต่างกันไป เป็นการนำพาผู้อ่านร่วมท่องประสบการณ์ชีวิตที่เต็มไปด้วยสีสันแตกต่างหลากหลาย
.............
จนกระทั่งในปี 2005 Ubiquit นวนิยายเรื่องแรก อันเป็นผลงานลำดับถัดมาของเธอได้รับการตีพิมพ์และได้รับการต้อนรับจากวงการวรรณกรรมฝรั่งเศสเป็นอย่างดี ด้วยเรื่องราวผสมผสานในแนวสืบสวนสอบสวน แฟนตาซี เสียดสีสังคม นักวิจารณ์วรรณกรรมฝรั่งเศสขนานนามเธอว่าเป็น “เพชร” เม็ดหนึ่งของแวงการวรรณกรรมร่วมสมัยแห่งศตวรรษที่ 21
...........
● ข้อมูลประชาสัมพันธ์เพิ่มเติม ติดต่อ ลัลตรา วรสุมาวงศ์ พี่แตงโม คนดีคนเดิม โทร. 08-1988-6062
● จัดจำหน่ายโดย เคล็ดไทย 02-225-9536-40
● คลิก ดาวน์โหลดข้อมูล,ภาพปก,ภาพถ่าย (full scale) ได้ที่
http://prypansangbooks.blogspot.com
● หนังสือของสำนักพิมพ์ฟรีฟอร์ม ปกติวางจำหน่ายที่ร้านนายอินทร์,ร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์,ร้านดอกหญ้า สยามแสควร์ ซอย3, ร้านคิโนะคุนิยะ,ร้าน Sauce Art Literature Cookbook เอกมัย (Vanilla House),ร้านแพร่พิทยา,ร้านบุ๊คคลับ,ศูนย์หนังสือจุฬาฯ และร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ
● ติดต่อสั่งซื้อโดยตรง
สำนักงานฟรีฟอร์ม,บริษัท ลมดี จำกัด
เลขที่ 22/5 สุขุมวิท 23 คลองเตยเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ 10110
โทรศัพท์ 0-22664-4256-7 โทรสาร 0-2664-4259
และ 08-5664-9612 (ติดต่อคุณราตรี)
freeformthailand@hotmail.com

freeformthailand@yahoo.com
* คลิกอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับพ็อคเก็ตบุ๊ค, บทสัมภาษณ์, ข่าวสารล่าสุด และ ฯลฯ ได้ที่
http://prypansangbooks.blogspot.com

sainte Rita ผู้หญิงสีฟ้าครึ้มฝน

sainte Rita ผู้หญิงสีฟ้าครึ้มฝน







เซนต์รีตา
ผู้หญิงสีฟ้าครึ้มฝน
(Sainte Rita)
รวมเรื่องสั้นฝรั่งเศส
ผู้เขียน : แคลร์ วัลเนียวิคซ์
ผู้แปล : วลัยภรณ์ นาคพันธุ์
บรรณาธิการต้นฉบับฝรั่งเศส :
อธิชา มัญชุนากร กาบูล็อง

บรรณาธิการ : ’ปราย พันแสง
สำนักพิมพ์ฟรีฟอร์ม
...........
หลังจากส่งนวนิยายฝรั่งเศสเรื่องดังเผยแพร่ออกสู่สายตานักอ่านชาวไทย อย่าง ไตรภาคนิโกโปล (Trillogy Nikopol) , ร้านชำสำหรับคนอยากตาย ( Suicide Shop) ปรากฏว่าได้รับการตอบรับอย่างดีจากเพื่อนพ้องน้องพี่สื่อมวลชนและนักอ่านที่ชอบลองของใหม่ ล่าสุด สำนักพิมพ์ฟรีฟอร์มมีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ในการนำเสนอผลงานฝรั่งเศสชุดใหม่ล่าสุด เซนต์รีตา ผู้หญิงสีฟ้าครึ้มฝน
..........
เซนต์รีตา ผู้หญิงสีฟ้าครึ้มฝน (Sainte Rita, patronne des causes désespérées) เป็นรวมเรื่องสั้นหกเรื่องหกรส ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในภาษาฝรั่งเศส ผลงานรวมเรื่องสั้นเล่มแรกในชีวิตของ แคลร์ วัลเนียวิคซ์ (Claire Wolniewicz) นักเขียนหญิงสาวสวยเชื้อสายโปแลนด์ กำลังมาแรงเป็นที่จับในแวดวงการวรรณกรรมฝรั่งเศสขณะนี้
.......
แคลร์ วัลเนียวิคซ์ เกิดเมื่อปี 1966 จบการศึกษาด้านกฎหมายและบริหาร เคยทำงานเป็นนักกฎหมาย แผนกทรัพย์สินทางปัญญา (สาขาภาพยนตร์และสื่อสิ่งพิมพ์) เธอประทับใจคำพูดของโรลองด์ บาธ (Roland Barthe) นักคิดนักปรัชญาฝรั่งเศสที่ว่า “ข้าพเจ้าไม่เคยเสียเวลาอ่านครบถ้วนทุกอักษร อ่านเพียงใจความสำคัญก็เพียงพอแล้ว” ถ้อยคำนี้มีอิทธิพลต่อสไตล์การเขียนของเธอเป็นอย่างมาก
........
ปัจจุบัน เธอเป็นนักข่าวอิสระให้กับสำนักข่าวหลายแห่ง รวมทั้งทำงานเขียนบทละครโทรทัศน์ไปด้วยพร้อมกัน เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้งานเขียนของเธอมีเนื้อหาร่วมยุคทันสมัย ด้วยสไตล์การเล่าเรื่องกระชับ กระชากใจ ตรง แรง หากแต่แฝงนัยะระหว่างบรรทัดมากมายให้ผู้อ่านได้ครุ่นคิดค้นหา
จากปกหลัง
.........
“กระเป๋าสตางค์ใบใหม่น่ะบอกอะไรๆได้มากกว่าข้อมูลบัญชีธนาคารเสียอีก คนเราจะยิ่งจับจ่ายมากขึ้นหากมีกระเป๋าสตางค์ใบสวยหรือทำให้ดูเป็นคนรวย” ชั่วชีวิตหนึ่งของคุณแบร์นาร์ด
.........

“นักร้องผู้หญิงทำไมชอบแต่งสีดำทะมึนกันนัก ฉันเคยเห็นพวกนักร้องหญิงที่กำลังจะไปขึ้นเวที เห็นแล้วนึกว่าพวกเธอกำลังจะไปงานศพเสีย ฉันนะ ถ้าฉันดังขึ้นมาละก็ ฉันจะสวมชุดของฌ็องโปล โกลติเย หรือไม่ก็ คริสติยอง ลาครัวซ์ ระหว่างที่รอวันดัง ฉันเลือกใส่ยีนส์กับเสื้อเชิ้ตที่ติดกระดุมสูงถึงคอ ก็จริงแหละว่ามันดูเคร่งครัดรัดกุมเหมือนกัน แต่ฉันจะไม่มีวันเผยเนินอกให้ใครเห็นหรอก จนกว่าเสียงของฉันจะทำให้ผู้ฟังลืมทุกสิ่งทุกอย่างได้” โปรดมาโดยพลัน : เด เวียนนี นอน ตาร์ดาร์ ..............

“แม้ในยามเศร้าโศก เราต้องรู้จักวางตัวให้มีเกียรติ ทำตัวสุภาพเข้าไว้” โลกหลังม่านมืด
..........
“แรกเริ่มเดิมทีเขาอยากจะเป็นจิตรกร ตอนนี้เขาเลยใช้เวลาที่เหลือในการสังหารจิตรกรคนอื่นๆ เขาเป็นนักวิจารณ์ปากจัด ลึกๆแล้ว เขาไม่ชอบอะไรสักอย่าง ไม่ชอบผลงานศิลปะชิ้นไหนทั้งนั้น ไม่ชอบผลงานของศิลปินคนไหนทั้งสิ้น” คู่ตัวอย่าง
..........
“เวลาตื่นนอนตอนเช้า เขาชอบฟังวิทยุเสียงดังและดื่มกาแฟเข้มๆ เธอชอบความเงียบและชาอ่อนๆ เธอยอมให้เขาเปิดวิทยุได้ แต่ให้ฟังได้แค่เพลง ข่าวยามเช้านี่ เธอรับไม่ได้ เพราะฟังแล้วชวนให้รู้สึกว่าความทุกข์ทรมานของโลกใบนี้ถาโถมเข้าใส่ตั้งแต่ยังไม่ทันตื่นเต็มตา แต่เขากลับคิดว่า ข่าวอุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ ดัชนีตลาดหุ้น อัตราการว่างงาน มันทำให้มีชีวิตชีวา ปลุกกระตุ้นให้เขาต้องการต่อสู้ดิ้นรน” ชะตารัก


เกี่ยวกับผู้แปล
วลัยภรณ์ นาคพันธุ์ : จบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไปศึกาต่อระดับปริญญาโท-เอก ที่เมืองน็องซี ประเทศฝรั่งเศส ในสาขา Science pour l'architecture แต่การเขียนวิทยานิพนธ์เป็นภาษาฝรั่งเศสไม่ใช่เรื่องง่าย อาจารย์ที่ปรึกษาจึงแนะนำให้อ่านเรื่องสั้นของ กีย์ เดอ โมปัสซังต์ (Guy de Maupassant ) เพื่อสร้างความคุ้นเคยด้านภาษา โมปัสซังต์กลายเป็นนักเขียนคนโปรด และจากนั้น เธอก็ได้อ่านวรรณคดีฝรั่งเศสอีกเกือบร้อยเล่ม เมื่อกลับเมืองไทย ด้วยกลัวว่าจะลืมภาษาฝรั่งเศสเพราะไม่ค่อยได้ใช้ เธอจึงเข้าไปแปลบทความภาษาฝรั่งเศสเป็นไทยจำนวนมาก เอาไว้ในสารานุกรมวิกิพีเดีย ก่อนจะได้รับการติดต่อจากรุ่นพี่ให้มาช่วยแปลข่าวภาษาฝรั่งเศสให้กับช่องโมเดิร์นไนน์ เธอจึงมีโอกาสได้ใช้ภาษาฝรั่งเศสมาจนทุกวันนี้ นอกจากนี้เธอยังเคยแปลเรื่องสั้นภาษาฝรั่งเศสส่งประกวดในเว็บไซต์วรรณกรรมดอทคอม และได้รับรางวัลชนะเลิศประจำเดือนด้วย สำหรับเซนต์รีตา ผู้หญิงสีฟ้าครึ้มฝน เป็นผลงานหนังสือแปลเล่มแรกของเธอ

● ข้อมูลประชาสัมพันธ์เพิ่มเติม ติดต่อ ลัลตรา วรสุมาวงศ์ "พี่แตงโม" คนดีคนเดิม โทร. 08-1988-6062
● สอบถามข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมหรือติดต่อสั่งซื้อโดยตรงได้ที่สำนักงานฟรีฟอร์ม 0-2664-4256-7
● ‘คลิก’ดาวน์โหลดภาพปกและภาพถ่าย (full scale) หรือรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับหนังสือเพิ่มเติมได้ที่
prypansangbooks.blogspot
*พ็อคเก็ตบุ๊คของ สำนักพิมพ์ฟรีฟอร์ม ปกติวางจำหน่ายที่ร้านนายอินทร์,ร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์,ร้านดอกหญ้า สยามแสควร์ ซอย3,ร้านคิโนะคุนิยะ,ร้าน Sauce Art Literature Cookbook เอกมัย (Vanilla House),ร้านแพร่พิทยา,ร้านบุ๊คคลับ,ศูนย์หนังสือจุฬาฯ และร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ
........
*ติดต่อสั่งซื้อโดยตรง ที่สำนักงานฟรีฟอร์ม,บริษัท ลมดี จำกัด เลขที่ 22/5 สุขุมวิท 23 คลองเตยเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 0-22664-4256-7 โทรสาร 0-2664-4259
freeformthailand@hotmail.com

passion cafe'



ชีวิตก็เหมือนคาเฟ่ริมทาง
บางครั้งเนืองแน่น บางครั้งอ้างว้าง
มีคนผ่านมา มีคนผ่านไป
ใครจดจำ ใครลืมเลือน

ย่อมมิใช่เรื่องใหญ่
หากช่วงเวลาที่พบกัน

ได้เปิดดวงตา เผยดวงใจ
หมดจดหมดใจ

...แล้วจากกัน












.....

คาเฟ่เสน่หา (passion cafe')

รวมบทความชุดใหม่ล่าสุดของ'ปราย พันแสง ว่าด้วยสารพัดเรื่องราวแห่งเสน่หาที่โลดแล่นในวังวนชีวิต มิใช่ความรักอย่างเดียวที่ทำให้คนเราตาบอด แต่ยังมีความปรารถนาลึกลับซ่อนอยู่ลึกเร้นข้างในใจ ดูเหมือนไร้จุดเริ่มต้น ไร้จุดสิ้นสุด แต่กลับฉุดกระชากลากถูความเป็นมนุษย์ของเราจนแทบมิอาจต้านทาน
........
[คำคนเขียน]
ตอนเด็กๆ ฉันเคยได้ยินสำนวนที่ว่า “สิ่งที่แน่นอนคือความไม่แน่นอน” อยู่บ่อยครั้ง ก็รู้สึกตลกดี แต่ก็ไม่ได้รู้สึกถึงความหมายของมันอย่างลึกซึ้งเท่าใดนัก

วันเวลาผ่านเลยจนเป็นผู้ใหญ่ หลายเรื่องราวที่ผ่านพบในชีวิต มักสะกิดใจให้ฉันได้ตระหนักถึงความไม่แน่นอนของชีวิตอยู่เสมอ ถึงแม้ไม่ได้ฝักใฝ่ธรรมมะอย่างเป็นกิจลักษณะ แต่ก็เชื่อว่า “กฎแห่งอนิจจัง” ดังคำพระท่านว่าไว้นั้นช่างเป็นสัจจะอย่างจริงแท้

นอกจากนี้ ฉันยังไม่เชื่อเรื่องความสมบูรณ์แบบของมนุษย์ ความสมบูรณ์แบบอาจจะมีจริง แต่มนุษย์เราไม่เคยสมบูรณ์แบบ และไม่มีวันไปถึงความสมบูรณ์แบบได้อย่างแท้จริง

แต่ถึงแม้ไปไม่ได้ ไปไม่ถึง
แต่เราก็ต้องรู้ว่าความสมบูรณ์แบบคืออะไร

ฉันไม่เชื่อเรื่องความมั่นคง เพราะไม่มีอะไรมั่นคง ฉันไม่เชื่อเรื่องความเป็นนิรันดร์ เพราะไม่มีอะไรเป็นนิรันดร์ สิ่งเดียวที่ฉันเชื่อเกี่ยวกับเรื่องราวพวกนี้ก็คือ “ขณะนี้” หรือ “ปัจจุบัน” โดยเฉพาะเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์เรา จะดีหรือร้ายก็เป็นเพียง “ขณะนี้” ก่อนหรือหลังจากนี้ล้วนแล้วแต่เป็นมายาทั้งสิ้น

นั่นคือที่มาของเรื่องราวต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ในหนังสือเล่มนี้

บทความใน คาเฟ่เสน่หา (Passion Cafe') เป็นงานที่เคยตีพิมพ์ในนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์และใน บล็อก'ปราย พันแสง ซึ่งการคัดเลือกมารวมไว้ในเล่มนี้ ฉันคัดสรรตามเนื้อหาของมัน ที่เกี่ยวข้องโยงใยกับความปรารถนาที่ไม่เคยมีจุดสิ้นสุดของมนุษย์เรา

งานเขียนที่เคยตีพิมพ์ลงในมติชนสุดสัปดาห์นั้น ระยะห่างระหว่างคนเขียนกับคนอ่านจะมีมากกว่างานเขียนที่ลงบล็อก ทั้งนี้ก็เนื่องจากรูปแบบของบล็อกนั้นมีความส่วนตัวสูง เมื่ออ่านแล้วอาจจะรู้สึกว่าสิ่งที่เขียนนั้นมัน “ส่วนตัว” มาก เมื่อนำมารวมอยู่ในเล่มเดียวกัน ถ้าอ่านเรียงต่อๆ กันไป อาจจะรู้สึกถึงความแตกต่างนั้นได้ชัดเจนขึ้น

อันที่จริงเป็นความตั้งใจของฉันเอง ที่ต้องการนำเรื่องราวที่เขียนขึ้นต่างเวลา ต่างวาระ ต่างสื่อเหล่านี้มาอยู่รวมกันเป็นที่เป็นทางสักครั้ง ค่าที่ว่าในระยะหลังนี้ฉันมักจะใช้ “บล็อก” เป็นสื่อหลักสำหรับเผยแพร่งานเขียนของตัวเอง เนื่องจากมันสะดวก และไม่ผูกมัดเรื่องเวลาส่งงานมากนัก ถ้าคุณๆ จะแวะเข้าไปเยี่ยมเยียนทักทายกันบ้าง ก็ยินดีต้องรับอย่างยิ่งค่ะ

’ปราย พันแสง
ฟรีฟอร์ม,มีนาคม 2551

suicide shop



ถ้าคุณชอบครอบครัว Addams Family ถ้าคุณมีทิม เบอร์ตันอยู่ในส่วนลึกของหัวใจ หนังสือเล่มนี้อาจจะทำให้คุณพบรักใหม่อีกครั้ง
.....
ซุยไซด์ช็อป (Suicide Shop) หรือ “ร้านชำสำหรับคนอยากตาย” เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในกิจการร้านค้าเล็กๆ อยู่ในเมืองหนึ่ง ดินแดนซึ่งศาสนาได้เลือนหายไปจากความนึกคิดของผู้คน การฆ่าตัวตายจึงไม่เป็นบาป ไม่ขัดต่อศีลธรรม
.....
ณ ที่แห่งนี้กิจการของตระกูลตูวาชกำลังดำเนินไปได้สวย ใครอยากตายได้เลือกตายสมใจ สินค้าในร้านชำแห่งนี้ มีทั้งเชือกแขวนคอ ชุดประกอบพิธีฮาราคีรี ยาพิษหรือแม้แต่ "จูบมรณะ"
......
ตระกูลตูวาชสืบทอดกิจการอันเก่าแก่นี้มาหลายรุ่น สโลแกนของร้านคือ "ไม่ตายยินดีคืนเงิน" จนกระทั่งวันหนึ่ง เมื่อเด็กชายอลันถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มและหัวใจอันเบิกบาน นิสัยมองโลกในแง่ดีของเขาทำให้พ่อแม่พี่น้องในตระกูลตูวาซต้องปั่นป่วน เพราะคนในตระกูลนี้ไม่เคยยิ้ม ไม่เคยรับรู้ถึงความสวยงามของชีวิต ไม่เคยรู้สึกถึงความรื่นรมย์ของโลกใบนี้ แล้วชีวิตอลันกับความสัมพันธ์ในครอบครัวตูวาซจะลงเอยเป็นเฉกเช่นไร
...........
ฌอง เติลเล่ ผู้เขียนนวนิยายตลกร้ายขายดีเล่มนี้ เกิดที่เมืองแซ็งท์-โล แคว้นนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศสเมื่อปีค.ศ. 1953 เขาเริ่มต้นชีวิตการทำงานด้วยอาชีพนักวาดการ์ตูน จากนั้นได้หันเหเข้าสู่วงการโทรทัศน์ เป็นทั้งนักข่าว นักแสดงและผู้กำกับภาพยนตร์ เขารักการเขียนมาโดยตลอดจนในปีค.ศ. 1991 นวนิยายเรื่องแรกของเขาก็ได้รับการตีพิมพ์ออกจำหน่าย
...........
นวนิยายของ ฌอง เติลเล่ ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักอ่านชาวฝรั่งเศส หลายเล่มได้รับรางวัล บางเล่มถูกนำไปทำเป็นภาพยนตร์แล้วก็มี นวนิยายเรื่องล่าสุด Le Magasin des suicides หรือ “ร้านชำสำหรับคนอยากตาย” เล่มนี้เป็นผลงานลำดับที่สิบของเขา เรื่องนี้ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางด้วยด้วยครีเอทีฟไอเดียและฝีมือล้ำเลิศของฌอง เติลเล่ ที่หยิบประเด็นปัญหาสังคมหนักๆ อย่างการฆ่าตัวตายมาเขียนล้อเลียนในแนวตลกร้าย แทรกอารมณ์ขันประปรายเกือบทุกหน้าตั้งแต่ต้นจนจบ โดยไม่ลืมทิ้งร่องรอยข้อคิดแหลมคมบาดลึกไว้ในจิตใจผู้อ่าน
............
เกี่ยวกับผู้แปล : องอาจ กันใจศักดิ์ เกิดที่จังหวัดลำพูน เริ่มเรียนภาษาฝรั่งเศสที่โรงเรียนประจำจังหวัด จบการศึกษาระดับปริญญาตรีภาษาฝรั่งเศส (เกียรตินิยม) จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปริญญาโทฝรั่งเศสศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
..........
เขารักการเขียนและการอ่าน โดยเฉพาะนวนิยายแปลมาโดยตลอด บทกวีภาษาฝรั่งเศสชื่อ Chiangmai mon amour ของเขาได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในวรสาร Le Printemps des poètes ของสมาคมฝรั่งเศสแห่งประเทศไทย ส่วนผลงานการแปลนั้น เขาได้แปลเรื่องสั้นและเรื่องสั้นขนาดยาวภาษาฝรั่งเศสสองเรื่องลงในเว็ปไซต์วรรณกรรมดอทคอม งานแปลเรื่อง “ร้านคนอยากตาย” เป็นงานแปลนวนิยายเรื่องแรกของเขา
........
ปัจจุบันนอกจากงานแปลที่เขารักแล้ว องอาจยังรักการร้องเพลงคลาสสิคและรักการสอนร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ
....

missu





ครั้งแรกกับรวมเล่มบันทึกงานเขียนชิ้นเอกในรอบกว่าทศวรรษ คัดสรรมาสำหรับนักอ่านหน้าใหม่ ด้วย 15 เรื่องราวที่อาจทำให้คุณรู้สึกเหมือนตกหลุมรักอีกครั้ง ด้วยถ้อยคำสะอาด เรียบง่าย ลึกซึ้ง กึ่งประหลาดล้ำ

..............


สักวูบหนึ่ง ที่รู้สึกราวกับบอดใบ้ต่อสรรพสิ่งกะทันหัน ไม่รู้โมงยาม ไม่รู้ว่า ตัวเรามีจริงหรือไม่ มีเพียงฝ่ามือที่ยังขาวพร่างในบรรยากาศลางเลือน ณ ช่วงเวลาเช่นนี้เอง ที่ความทรงจำต่างๆ จะพรั่งพรูหลั่งไหล-ลืมเลือนมิได้ตั้งใจ จดจำปราศจากความหมาย

บางนาทีของชีวิตช่างแสนดี จนไม่มีคำใดในโลกนี้แจกแจงได้ ณ ช่วงเวลานาทีแห่งความสงัดนิ่งเช่นนั้น ความจริงแท้ในใจผุดผ่องประณีตกว่ายามใด –ประกายตาหางนกยูง

ผ่านพบผู้หญิงมากมาย แต่ผู้หญิงในใจชายผู้ยิ่งใหญ่บางคนมีเพียงสองแบบ คือ “นางฟ้า” และ “พรมเช็ดเท้า” กระบวนการน่าทึ่งคือขั้นตอนที่นางฟ้าค่อยๆ กลายเป็นพรมเช็ดเท้า และพวกเธอเหล่านั้นก็เต็มใจ –ผู้หญิงมาจากดอกทานตะวัน

เรารู้จักกันน้อยกว่าคนรู้จัก และยังไม่แน่ใจตัวเองด้วยซ้ำ ว่าอยากจะให้เธอรู้จักฉัน มากกว่าคนทั่วไปมากแค่ไหน-จันทร์กระจ่างฟ้ายามบ่าย

คนที่เธอรู้จักมานานปี เหมือนคนไม่ค่อยเอาใจใส่ใยดี เหมือนคนที่ไม่ค่อยรู้จัก คนที่อยู่กึ่งกลางระหว่างรู้จักและไม่รู้จัก น่าแปลก ที่ชีวิตยังวนเวียน วนเวียนมาเจอกันได้ อีกสองปี ห้าปี อาจจะได้เจอกันใหม่
หรืออาจจะไม่ได้เจอกันอีกเลยตลอดชีวิต-เพื่อนแปลกหน้าและผู้หญิงเห่าได้

ความโศกเศร้าเดินทางเข้ามาสู่ชีวิตคนเราได้หลายรูปแบบ และน้ำตาไม่ใช่ความโศกเศร้าที่แท้จริง-บานชื่นสีม่วงในบ่ายฝน

รถคันหนึ่ง บรรทุกผู้โดยสารไปสามคน มีซันตาคลอส มีผู้ชายดีๆ แล้วก็มีผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และปรากฏว่ารถคันนั้นประสบอุบัติเหตุ ทำให้ผู้โดยสารตายไปสองคน ลองทายซิว่าใครรอด-เทพนิยายคืนวันพุธ

ในดินแดนแห่งความสงบสุข อาหารการกินสมบูรณ์ ชีวิตเรียบง่าย นกตัวเมียบางเผ่าพันธุ์ไม่ได้ก้มหัวให้เหตุผลพื้นๆ เช่นอาหาร หรือพี่อยู่อาศัย เธอไม่ได้เลือกเขามาเป็นคู่ เพียงเพราะเขาเป็นนกตัวผู้ที่สร้างรังเก่ง แต่เธอเลือกเพราะเขาเป็นศิลปิน เป็นเจ้าของแกลเลอรี่ที่สวยที่สุด-นกบนกิ่งโมก
...........

หนังสือวางจำหน่ายแล้วที่ร้านนายอินทร์และร้านหนังสือทั่วประเทศราคาปก 195 บาท หรือติดต่อสั่งซื้อโดยตรงที่สำนักพิมพ์ฟรีฟอร์มโทร. 0-2664-4256-7

เรื่องรักใคร่ พิมพ์ครั้งที่ 3

เรื่องรักใคร่ พิมพ์ครั้งที่ 3


เรื่องรักใคร่
พิมพ์ครั้งที่ 3
....
รวมเรื่องจุ๊กจิ๊กว่าด้วยความรัก หวาน ขม อมหวาน อมเปรี้ยวครบรส ในรูปแบบเรียงความ ภาพยนตร์ ดนตรี เรื่องสั้น บทกวี บทแปล เอสกิโม และอื่นๆ อีกมากมาย
............
“คุณไม่จำเป็นต้องกินคนที่คุณรักนะ จอร์จินา คุณเคยคิดมั้ยว่าการกินเข้าเขาไป มันจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายของคุณ คุณจะคิดว่า เมื่อคุณกินเขาแล้ว คุณกับเขาจะได้อยู่ร่วมกัน ตลอดไปไม่ได้นะ” จินตนาการ,อาหาร,เซ็กซ์ และวิธีปรุงเนื้อคนรัก

“ความรักมากมายนั้นมันไม่จีรังยั่งยืนอะไร มันท่วมท้นล้นใจ แล้วจางหายไปได้อย่างมหัศจรรย์ ราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเลยฉะนั้น” แล้วเราจะรู้เอง


“เธอเรียกร้องคร่ำครวญให้เขาปรากฏกาย แม้ว่าโดยแท้จริงแล้วเขาโอบกอดเธอไว้ตลอดเวลา เพียงแค่เธอหลับตาและปลดปล่อยความรู้สึกออกไป ก็อาจจะสัมผัสเขาได้…” เพลงรักแสนเศร้าของคนจากแดนไกล แด่ความสุขแห่งชีวิตในช่วงเวลาสั้นๆ


“ผู้คนบนโลกนี้มีอยู่มากมาย กุหลาบในโลกนี้มีเป็นพันเป็นล้านดอก หมาจิ้งจอกก็มีเป็นพันเป็นล้านตัว แต่กุหลาบทุกดอกหรือหมาจิ้งจอกทุกตัวก็เหมือนกันหมด ไร้ความหมายเหมือนกันหมด ถ้ามันไม่ได้รู้จัก ไม่ได้รัก หรือผูกพัน…” เรื่องรักริมทะเล

"เมื่อลูกตกอยู่ในห้วงรัก มันจะเป็นเพียงความลุ่มหลงคลั่งใคล้ชั่วคราว ที่ไม่ยั่งยืนอะไรนัก และเมื่อช่วงเวลาแห่งความลุ่มหลงจืดจางไป ลูกก็จะต้องตัดสินใจ ความรักไม่ใช่ความตื่นเต้นระทึกใจ ไม่ใช่ความปรารถนาที่จะได้อยู่ด้วยกันทุกนาที ไม่ใช่การตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วจินตนาการไปว่า เขาได้จูบเราไปทั่วทั้งเรือนร่าง ไม่ต้องอายหรอกลูกเอ๋ย เพราะพ่อกำลังจะบอกลูกถึงสิ่งที่เป็นแก่นแท้ของความรัก การตกหลุมรักหรืออยู่ในห้วงรักกับใครสักคน เป็นสิ่งซึ่งอาจจะเกิดขึ้นกับใครก็ได้ แต่ความรักที่แท้จริงนั้น มันคือสิ่งที่หลงเหลืออยู่กับเรา หลังจากที่ช่วงเวลาแห่งความลุ่มหลงบ้าคลั่งผ่านพ้นไปแล้วต่างหาก" สงครามโลก (เรื่องส่วนตัว)

เรื่องรักเบอร์ห้า


เรื่องรักเบอร์ห้า
ผลงานในปี 2549
....
รวมเรื่องสั้น บทความ บทกวี และเรื่องแปล ว่าด้วยมุมมองใหม่เกี่ยวกับ โชคชะตาและยถากรรม ที่นำพาใครบางคนมาพบกัน และเรียกมันว่า "รักแรกพบ" ช่างน่าประหลาดใจเพียงใด หากแท้จริงแล้ว พวกคุณก็เคยพบเจอกันมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนในก่อนหน้านี้ บางทีคุณอาจจะเคยขอโทษขอโพยต่อกันท่ามกลางฝูงชน หรืออาจจะเป็นคนปลายสายโทรศัพท์ ยามที่คุณต่อเบอร์ผิด...พวกคุณอาจจะไม่ได้เจอกันครั้งแรกอย่างที่คิดเลยสักนิด

"พวกเขาโดดเดี่ยวและเปลี่ยวเหงาเหมือนคนทั่วไป แต่ทั้งสองเชื่อหมดใจว่า ในโลกใบนี้จะต้องมีหญิงสาวและชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบ อยู่ที่ไหนสักแห่งในโลก"

"อาจไม่ใช่เรื่องพรหมลิขิต ไม่ใช่โชคชะตา แต่เป็นอะไรบางอย่างที่ชักพาให้คุณสองคนได้มาอยู่ใกล้ๆ กัน แต่ก็แกล้งให้แยกจากกัน คอยขวางร่ำไป ไม่ยอมให้อยู่ใกล้กันได้มากกว่านั้น"

คนรัก เคยรัก ยังรัก (ดาว)





คนรัก เคยรัก ยังรัก
(ดาว)


ผลงานปี 2550
รวมเรื่องสั้นและบทกวี เคยเป็นหนังสือทำมือชื่อ "ดาว" มาหลายปี ตอนนี้พิมพ์จริงแล้ว เนื้อหาในเล่มว่าด้วยเทหวัตถุโรแมนติกบนท้องฟ้า อันเป็นที่มาของแรงบันดาลใจ ความสุข ความรัก ความเศร้า และเรื่องราวในชีวิตอีกมากหลาย ทุกเรื่องราวในเล่มล้วนแล้วแต่สร้างสรรค์ขึ้นมาจากดวงดาว เนื่องเพราะดาวบางดวง คำบางคำในชีวิตมีความหมาย บางคำหากหลุดจากปากไป อาจทำให้ดาวทุกดวงบนท้องฟ้าหายวับ

..............

จากปกหลัง "กรุงเทพฯ ยังมีดาวนะ ไม่ว่าดาวประจำเมือง หรือดาวประจำวัน แม้แต่ดาวที่เป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ เรายังเห็นกันได้ในเขตเมืองหลวงนี้ ...ตรงไหนก็มีดาว ถ้าเรามีตาสำหรับมองมัน"

"สำหรับบางคน โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ไปอย่างว่างเปล่า ชีวิตเป็นอย่างนี้ ความหมายของมันไม่เคยแน่นอน บางครั้งดูเหมือนเราจะเข้าใจในความเป็นไป แต่บางทีก็ไม่ ความร้ายกาจของมันคือ บางทีคิดว่าเข้าใจ แต่ความจริงอาจจะไม่"

"แล้วคุณเชื่อไหม เรื่องที่เขาเล่ากัน ว่าคนสองคนจะรักกันไปจนตาย แล้วคุณรู้ไหม หากจะมีใครรักใครไปจนตายจริงๆ มันจะมีแค่คนเดียวเท่านั้น ...ที่รักไปจนตาย"

คนรัก เคยรัก ยังรัก (ดาว) ,ราคาปก 125 บาท วางจำหน่ายแล้วที่ร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์และร้านนายอินทร์ทั่วประเทศ,ร้านดอกหญ้า สยามแสควร์ ชอย3,ร้านคิโนะคุนิยะ,ร้านแพร่พิทยา,ร้านบุ๊คคลับ,ศูนย์หนังสือจุฬาฯ และร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หรือติดต่อสั่งซื้อโดยตรงได้ที่ 0-2664-4256-7

สวยสดและงดงาม


สวยสดและงดงาม

ผลงานปี 2547,พิมพ์ครั้งที่ 3
รวมเรื่องสั้นและบทกวีแห่งความรักและดอกไม้ หวานๆ ขมๆ อมเข็ดฟัน กลั่นชีวิตกว่าทศวรรษ คัดสรรจากนิตยสารอิมเมจ มติชนสุดสัปดาห์ และหนังสือพิมพ์มติชนฉบับวันอาทิตย์ ว่าด้วยความงาม ความเจ็บปวด กลีบก้านเกสรดอกไม้ กุหลาบตอแหล จูเลีย โรเบิร์ตส์ เช็คสเปียร์ แรงบันดาลใจ นกบนกิ่งโมก ฯลฯ

"ฉันชอบดอกไม้หอมสีขาว แม้แต่พวงชมพู ก็ยังเลือกปลูกดอกสีขาว พวงชมพูสีขาวค่อนข้างหายาก และคนไม่ค่อยรู้ว่ามี ความพิลึกของมัน เหมือนตัวฉันอยู่บ้างเหมือนกัน

มนุษย์ดอกไม้พันห้าร้อยปี


มนุษย์ดอกไม้พันห้าร้อยปี

ผลงานปี 2547,พิมพ์ครั้งที่ 4
บันทึกการเดินทาง ระหว่างความรัก ดอกไม้ และไกลห่าง บางมนุษย์ไม่เกรงกลัวสิ่งใด และไม่อยากเป็นผู้ชนะอีกต่อไปแล้ว รวมเรื่องสั้น โหดๆ หวานๆ แต่ไม่ขาดแคลนความงามละเมียดละไม ว่าด้วยหน้ากากอันที่ใช่ วรรณกรรมในสวนดอกไม้ จากกระถางสายน้ำผึ้งถึงเถาวัลย์จันทร์กระจ่างฟ้า ดวงตาหางนกยูงในเทพนิยายกรีก ฯลฯ

"กลีบดอกไม้ร่วงโรย แต่เลือดยังเป็นสีแดง ฉันหมายถึงความเจ็บปวดต่างหากล่ะ ที่เป็นอมตะ"

"บางนาทีที่โลกเอียงมาให้เราใกล้กัน ในฉับพลันที่เรามีกัน ก็ได้แต่ฉงนฉงาย ว่าก่อนหน้านี้ เรามีชีวิตอยู่มาในโลกนี้ โดยไม่มีกันได้อย่างไร"

"เราซอนตา เราดิ่งใจ มุ่งมาดปรารถนาด่ำลึก หาความหมายทั้งหมดทั้งมวลของจักรวาล จากกระดาษเหลืองลออแผ่นเล็กเบื้องหน้า"

"กาลเวลาช่างโหดร้าย หากคนที่รักตายจากไป แล้วเราก็ลืมเขาได้จนหมดสิ้น"

love at first READ รักแรกอ่าน

love at first READ
รักแรกอ่าน

ผลงานปี 2546,นวนิยายขนาดสั้น
นวนิยายขนาดสั้นเรื่องแรกของ'ปราย พันแสง ว่าด้วยเรื่องราวของคนสองคน กับสเน่ห์มนต์ขลังในโลกตัวหนังสือ ที่แสนละเอียดอ่อนเปราะบาง จากจุดเริ่มต้นของคำถาม "Do you believe in love at first READ?"

บางคนไม่ได้เชื่อเท่านั้น หากแต่ยังหลั่งน้ำตาให้มันมาแล้วด้วย

"ฉันเป็นแค่หัวหอมหัวหนึ่ง ฉันมาจากความว่างเปล่า เมื่อคุณลอกเปลือกฉันออกช้าๆทีละแผ่น ทีละแผ่นจนหมดสิ้น คุณจะไม่เจออะไรเลย เพราะสิ่งสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ในมือคุณก็คือความว่างเปล่า"

"ผมไม่กลัวความว่างเปล่า กลัวแต่เพียงว่า หลังจากเพียรพยายามลอกเปลือกหัวหอมไปจนหมดแล้ว สิ่งสุดท้ายที่คุณเหลือทิ้งไว้ให้ผม ก็คือน้ำตานองหน้านั่นต่างหาก"

เด็กชายหอยนางรม


เด็กชายหอยนางรม

The Melancholy Death of Oyster Boy & Other Stories
ของ ทิม เบอร์ตัน
ผลงานปี 2544,พิมพ์ครั้งที่ 4
เด็กชายหอยนางรม แปลจาก The Melancholy Death of Oyster Boy & Other Stories เรื่องราว ภาพวาด และจินตนาการพิลึกพิลั่น ที่กลายเป็นหนังสือขายดีของ ทิม เบอร์ตัน ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังของโลก เจ้าของฉายา "อัจฉริยะแห่งอารมณ์ขันหม่นมืด"

"สำหรับผม โลกนี้เป็นสีเทา เป็นสถานที่ซึ่งความดีและความชั่วผสมผสานกัน และมันก็เป็นสีเทาเข้มขึ้นเรื่อยๆ ผมชอบเทพนิยาย และความนึกคิดเกี่ยวกับเทพนิยายแต่ละเรื่องในตัวเราแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป"

ดวงตะวันส่องฉาย


A Chance of Sunshine
ดวงตะวันส่องฉาย
พิมพ์ครั้งที่ 3
ดวงตะวันส่องฉาย เรื่องราวของหนุ่มนักดนตรี กับนักเขียนสาว เขาชอบเลี้ยวขวา เธอชอบเลี้ยวซ้าย ชะตากรรมหกคะเมนตีลังกา เมื่อเขาเธอต้องมารักกันในวันหนึ่ง ณ ที่ซึ่งดวงตะวันส่องฉาย แปลจาก A Chance of Sunshine หนังสือเบสต์เซลเลอร์ ของ Jimmy Liao คนเขียนเรื่องและคนทำภาพประกอบชื่อดังชาวใต้หวัน

จากปกหลัง
หนังสือภาพเรื่องเยี่ยมที่ทุกคนต้องมี ถึงพร้อมด้วยภาพประกอบที่สวยงาม ถ้อยคำเรียบง่ายแต่ลึกซึ้งกินใจ ตีพิมพ์มาแล้วกว่าหกภาษา ด้วยยอดพิมพ์กว่าล้านเล่ม น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่งานศิลปะของคนเอเชีย เป็นที่ยอมรับในสายตาตะวันตกหลากหลายชาติ

บางที ดวงตะวันส่องฉายเล่มนี้ อาจเป็นหนังสือภาพที่ให้ความหมายของความรักดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา วันหนึ่งหนังสือเล่มนี้จะกลายเป็นหนังสือภาพประกอบที่ขึ้นชื่อว่า "คลาสสิค" ที่สุด ในบรรดาหนังสือประเภานี้ทั้งหมด

เทพนิยายประกายตา

เทพนิยายประกายตา

เทพนิยายประกายตา เรื่องราวโรแมนติกแฟนตาซีของปิแอร์ สาวพราวเสน่ห์กับจิตรกรหนุ่มเจ้าของประกายตาวิปไหว "ประกายตาเธอนั้น...ฉันจำแนกด้วยใจ" เทพนิยายบนบ้านเรือ ร้านหนังสือเก่า และบทเพลงแจ๊สของ เอลลา ฟิตซ์เจอรัลด์ เริ่มต้นขึ้นมาอย่างน่าประทับใจ โดยมีแรงบันดาลใจมาจากชีวิตจริงบางเสี้ยวของโซฟี ดาห์ล นางแบบอื้อฉาวจากโฆษณาน้ำหอม Opium ของ Yves Saint Laurent เคยขึ้นปกชั้นนำของนิตยสารระดับโลกมาแล้วนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็น Vogue,Elle,Harper'Bazaar รวมถึงเคยถ่ายปฏิทินของ Pirelli รูปสมบัติของเธอจุดประกายแฟชั่นใหม่ให้กับดีไซเนอร์อย่าง คาร์ล ลาเกอร์ฟิลด์ และ ฌอง ปอล โกติเยต์ เป็นอาทิ ชื่อของเธอ "โซฟี" ก็มาจากตัวละครในหนังสือ BFG ของโรอัลด์ ดาห์ล นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ของโลก ที่เป็นคุณตาแท้ๆ ของเธอนั่นเอง "ความมหัศจรรย์ทุกอย่างเป็นจริงได้เสมอ" เทพนิยายของเธอเริ่มต้นเช่นนั้น..

ผู้ชายที่หลงรักดวงจันทร์


ผู้ชายที่หลงรักดวงจันทร์
พิมพ์ครั้งที่ 2
ผู้ชายที่หลงรักดวงจันทร์ อีกครั้งกับเรื่องราวแสนละเอียดอ่อนลึกซึ้งในภาพวาดประณีต แปลจาก Moon,Forgets ของ Jimmy Liao ที่จะนำพาเราไปสู่แก่นแท้ของชีวิตในอีกแง่มุมหนึ่ง ณ โลกซึ่งแปรเปลี่ยนได้ตลอดเวลา เพื่อเราจะได้สำนึกตระหนักอย่างถ่องแท้ว่าความสุขในชีวิตคนเรานั้นเปราะบางเพียงใด

เป็นเรื่องปกติธรรมดาของชีวิตเรา กับผู้คนผ่านมาแล้วผ่านไป สิ่งที่เคยพานพบ,กลับสูญหาย,สิ่งจดจำรำลึกได้...เกินไขว่คว้า ได้มาแล้วเสียไปเป็นเรื่องปกติธรรมดา สิ่งเคยพานพบเมื่อครั้งหนึ่ง บัดนี้หวนคืนมาอยู่ตรงหน้า สิ่งเคยลืมเลือนในบางครา กลับย้อนมาหาเราอีกครั้งหนึ่ง สิ่งที่มองไม่เห็น เป็นเพราะมันไม่มีอยู่หรือไร สิ่งที่ความทรงจำเราเฝ้าถนอมไว้ จะดำรงอยู่อย่างนั้นได้ตลอดไปหรือ?

เรื่องรักใคร่

เรื่องรักใคร่

พิมพ์ครั้งที่ 3 ผลงานหนังสือชุดไตรภาค เล่มที่ 1
"เรื่องรัก"ใคร่ รวมเรื่องจุ๊กจิ๊กว่าด้วยความรัก หวาน ขม อมหวาน อมเปรี้ยวครบรส ในรูปแบบเรียงความ ภาพยนตร์ ดนตรี เรื่องสั้น บทกวี บทแปล The Missing Piece เอสกิโม และอื่นๆ อีกมากมาย
"เมื่อลูกตกอยู่ในห้วงรัก มันจะเป็นเพียงความลุ่มหลงคลั่งใคล้ชั่วคราว ที่ไม่ยั่งยืนอะไรนัก และเมื่อช่วงเวลาแห่งความลุ่มหลงจืดจางไป ลูกก็จะต้องตัดสินใจ ความรักไม่ใช่ความตื่นเต้นระทึกใจ ไม่ใช่ความปรารถนาที่จะได้อยู่ด้วยกันทุกนาที ไม่ใช่การตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วจินตนาการไปว่า เขาได้จูบเราไปทั่วทั้งเรือนร่าง ไม่ต้องอายหรอกลูกเอ๋ย เพราะพ่อกำลังจะบอกลูกถึงสิ่งที่เป็นแก่นแท้ของความรัก การตกหลุมรักหรืออยู่ในห้วงรักกับใครสักคน เป็นสิ่งซึ่งอาจจะเกิดขึ้นกับใครก็ได้ แต่ความรักที่แท้จริงนั้น มันคือสิ่งที่หลงเหลืออยู่กับเรา หลังจากที่ช่วงเวลาแห่งความลุ่มหลงบ้าคลั่งผ่านพ้นไปแล้วต่างหาก"

เรื่องอ่านเล่น


เรื่องอ่านเล่น
พิมพ์ครั้งที่ 2 ผลงานหนังสือชุดไตรภาค เล่มที่ 2
"เรื่องอ่านเล่น" หลากรสครบเครื่องเรื่องบันเทิงเริงใจ จากคอลัมน์ Lighthearted นิตยสารอิมเมจ,มติชนสุดสัปดาห์,อินเตอร์เน็ต และ ฯลฯ อ่านแล้วก๊าก อ่านแล้วหัวทิ่มก็แล้วแต่ใจใคร ว่ากันตั้งแต่ศาสตร์และศิลป์แห่งการโกหกตอแหล,หนังสือโป๊,แวมไพร์ ฯลฯ "เรื่องอ่านเล่น" เป็นหนึ่งในหนังสือชุดไตรภาคของ'ปราย พันแสง ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมดสามเล่ม คือเรื่องรักใคร่,เรื่องส่วนตัว และ เรื่องอ่านเล่น แต่ละเล่มจะมีคอนเซ็ปต์แตกต่างกันไป โดยทยอยตีพิมพ์ออกมาในปี 2544 "เรื่องอ่านเล่น" เคยตีพิมพ์ครั้งแรกในรูปแบบหนังสือทำมือ โดยวางจำหน่ายครั้งแรก ในงาน Heineken Fat Festival ณ โรงงานยาสูบเก่า ถนนเจริญกรุง เมื่อวันที่ 1-2 กันยายน 2544 โดยในการจัดพิมพ์เต็มรูปแบบนั้น ได้มีการออกแบบปก จัดทำรูปเล่ม รวมถึงปรับปรุงเนื้อหาใหม่ทั้งหมด รวมถึงมีการตัดทอนและเพิ่มเติมเรื่องใหม่เข้าไปด้วย

เรื่องส่วนตัว : โบยบินแล้วไม่หวนคืน

เรื่องส่วนตัว : โบยบินแล้วไม่หวนคืน

ผลงานหนังสือชุดไตรภาค เล่มที่ 3

โบยบินแล้วไม่หวนคืน (เรื่องส่วนตัว) คัดสรรงานเขียนชุดพิเศษในรอบทศวรรษ เบื้องหลัง เบื้องลึก รวมบทสัมภาษณ์ บันทึกส่วนตัว จดหมาย โปสการ์ด ภาพถ่าย ภาพวาด ฯลฯ

“ฉันเพิ่งลองหัดวาดรูปสีน้ำมัน รูปที่ฉันชอบวาดซ้ำซาก คือภาพดอกไม้บาน แม้ครูจะพร่ำสอนแกมบังคับว่าลองวาดดอกไม้แบบอื่นบ้างเถิด เพื่อฝึกฝนเส้นสายให้จัดเจนหลากหลาย ฉันก็ได้แต่ค่ะ ค่ะ ค่ะ แต่พอกลับถึงบ้าน ก็วาดแบบเดิมอยู่นั่นแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจว่าฝีมือทางนี้ของฉันเลยไม่ไปถึงไหน ฉันชอบวาดรูปดอกไม้บาน ในยามที่มันผลิบานสวยที่สุด คงเหมือนกับที่ชอบเขียนถึงความจริง ในบางช่วงเวลานาทีของชีวิต ที่มันหวานชื่นหรือขมขื่นได้อย่างที่สุด ฉันอยากบันทึกช่วงเวลานาทีเหล่านี้เอาไว้ทั้งหมด เพราะรู้ดีว่ามันจะไม่อยู่กับเรานานนัก แต่ฉันก็ทำอย่างใจไม่ได้ทั้งหมด แน่นอน ไม่ว่าดอกไม้หรือชีวิต ไม่ว่าจะขมขื่นหรือชื่นบาน ก็ย่อมมีวาระของมัน ไม่มีอะไรคงเดิม ทุกสิ่งย่อมเปลี่ยนสภาพไปตามกาลเวลา กว่าเราจะเข้าถึงความจริงที่แท้ของชีวิตว่าเป็นเช่นไร บางอย่างก็โบยบินจากเราไปแล้ว เช่นเดียวกับหลายสิ่งในหนังสือเล่มนี้ …ที่ไม่เคยหวนคืน”

พระจันทร์พันดวง


พระจันทร์พันดวง
...
พระอาทิตย์ให้แสง
ดวงจันทร์ให้แรงบันดาลใจ
มองดวงอาทิตย์นาน
อาจเผาผลาญดวงตาไหม้
มองพระจันทร์นานไป
เธออาจกลายเป็นกวี



บันทึกบันดาลใจแห่งพระจันทร์ ความคิด อารมณ์ ความรู้สึกนึกฝัน มนุษย์ล้วนมีด้านมืดด้านสว่างเหมือนกัน เหมือนจันทร์ "พระจันทร์พันดวง" เป็นหนังสือ ภาคต่อของหนังสือ “ฉันเกลียดเธอ ฉันรักเธอ ชีวิต” รวมบทกวี ความเรียง และบทแปล จากคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์มติชนวันอาทิตย์

ฉันเกลียดเธอ ฉันรักเธอ ชีวิต

ฉันเกลียดเธอ ฉันรักเธอ ชีวิต
พิมพ์ครั้งที่ 8

...


รวมบทกวี ความเรียง บทแปล ยอดฮิต จากหนังสือพิมพ์มติชนฉบับวันอาทิตย์ "ฉันชอบบทกวี เพราะมันสวย ฉันเคยมีงานเขียนพวกนี้มาบ้าง แต่หลายปีที่ผ่านมาก็ห่างเหินมันไปมากแล้ว ตอนที่ฉันเริ่มเขียนงานชุดนี้ลงหนังสือพิมพ์มติชนทุกวันอาทิตย์นั้น ฉันไม่ได้เขียนกลอน ไม่ได้เขียนบทกวีมานานแล้ว แต่ยังอ่านอยู่บ้าง ฉันมีเพื่อน มีมิตร มีใครบางคนในชีวิตที่ชอบบทกวีเหล่านี้ และมักจะส่งมาให้ฉันอ่านอยู่เสมอ ด้วยเรื่องราวหลายอย่างในชีวิต ทำให้ฉันสนใจอยากค้นหาความหมาย ค้นหาสิ่งต่างๆ จากบทกวีเหล่านั้น และเมื่อลงมือทำ ฉันก็ได้พบว่า ฉันยังค้นหาความหมายจากชีวิตตัวเองและผู้คนรอบข้างไปพร้อมกัน "
จากปกหลัง



"ไม่แน่ใจว่าผมคิดไปเองหรือเปล่านะครับ แต่ผมคิดว่าในบรรดางานเขียนทั้งหมด 'ปราย พันแสง มีความสุขที่สุด เมื่อได้นั่งลงเขียนหรือแปลบทกวี ผมสัมผัสอารมณ์นี้ได้จากประโยคและคำที่เธอบรรจงเรียงร้อย"
วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ : บรรณาธิการ a day

"อ่านงานเขียนของ 'ปราย พันแสง แล้วรู้สึกชอบใจในความเรียบง่าย ภาษาสวยงาม รสชาติกลมกล่อมนุ่มลึก เจืออารมณ์เปรี้ยวฝาดบ้างตามสถานการณ์ชักนำ วิธีการมองโลกของเธอก็น่าสนใจ มันเป็นท่าทีแบบมนุษย์นิยม ย่องย่องชีวิตและสุนทรียภาพในการมีชีวิต ทว่ามีความเป็นส่วนตัวสูง"
ประธาน ธีระธาดา : บรรณาธิการบริหาร art 4d

"บทกวีว่าด้วยความรักที่'ปราย พันแสง เลือกมาแปลในเล่มนี้ ล้วนมีความหมายและให้ความรู้สึกดีๆ เมื่อเธอขยายความเพิ่มเติม ก็ยิ่งทำให้น่าอ่าน น่าติดตามยิ่งขึ้น งานเขียนของ'ปราย กระตุ้นให้ขบคิดและน่าจดจำ ที่สำคัญ ได้อารมณ์ขันเล็กๆ เป็นของแถม"
ณิพรรณ กุลประสูตร : บรรณาธิการอำนวยการนิตยสาร GM

As Films Go By



As Films Go By

หนังในใจ'ปราย พันแสง

"หนังที่ทำให้ผ้าเช็ดหน้าเปียก 4 ผืน ย่อมต่างจากหนังที่ทำให้ผ้าเช็ดหน้าเปียก 2 ผืน การแสดงอะไรก็ตาม ที่ทำให้น้ำตาคนเราไหลได้ ย่อมมีส่วนในการเปลี่ยนบุคลิกภาพส่วนลึกของเราได้ บางคนคิดว่าหนังฮอลลีวู้ดสร้างขึ้นมาเพื่อความบันเทิงทั้งนั้น โดยไม่เกี่ยวกับการศึกษาเลย นั่นเป็นความเข้าใจที่โง่มาก"

"เพราะหนังทุกเรื่อง ไม่ว่าจะดีหรือเลว เป็นการให้การศึกษาทั้งสิ้น ฮอลลีวู้ดเป็นสถาบันการศึกษาที่โดดเด่นที่สุดในโลก ฮอลลีวู้ดไม่สะอาดเหมือนฮาร์วาร์ด แต่ฮอลลีวู้ดสำคัญกว่า เพราะฮอลลีวู้ดเข้าถึงประชาชนได้มากกว่า"

นี่คือคำพูดของ คาร์ล แซนเบิร์ก กวีอเมริกัน ที่ฉันจดจำใส่กะโหลกมานานปี แน่นอน เหล่านี้อาจจะเป็นคำพูดที่มีพื้นฐานมาจากความหลงตัวเองอยู่มากของชาวอเมริกัน แต่ฉันคนหนึ่งล่ะ ที่ยืดอกยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานว่าฉันก็คือเหยื่อที่ดีคนหนึ่งของฮอลลีวู้ด

อันที่จริง ในระยะหลังนี้ หากจะดูหนังสักเรื่อง ฉันก็ไม่ค่อยสนใจแล้ว ว่าหนังอะไรจากไหน จากฮอลลีวู้ด หรือหนังอินดี้ ฉันสนใจแต่ว่า ฉันดูหนังเหล่านั้นแล้วคิดอะไร หนังมันพยายามจะบอกอะไร และมันมอบสิ่งใดให้กับชีวิตฉันบ้าง งานเขียนในหนังสือเล่มนี้ คือยุ้งฉางพืชผลที่ฉันเก็บเกี่ยวจากหนังเหล่านั้น"

"แม้นวาสนามี อยู่ไกลพันลี้ก็เจอได้ ไร้วาสนา ...อยู่ตรงหน้าก็แลหาไม่เห็น"
เถียนมีมี่

"เป็นคนดี มีจิตใจที่งดงาม ไม่เพียงพอเสียแล้ว สำหรับการอยู่ให้ได้บนโลกนี้ ยังต้องแข็งแกร่งอดทน ต่อแรงริษยาเสียดสี ยังต้องมีความรักที่ดี และยังต้องมี...อีกมากมาย" Bad Apple&Confucius

"เราต้องเผชิญแต่ความเจ็บปวด ชีวิตถูกรุมเร้าด้วยสิ่งน่ากลัวที่สุด แม้แต่ความรัก ก็ยังสั้นเกินกว่าจะสัมผัสได้" The Portrait of s Lady

"ใครบางคน ทำเหมือนว่ารักเราสุดหัวใจ ทำให้รุ่มร้อนทุรนทุรายหา ยอมกระทั่งละทิ้งเกียรติ ศักดิ์ศรี และทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อมาพบความจริงที่ว่า ตลอดมาและตลอดไป ใครคนนั้น ไม่เคยรักเราเลยแม้แต่น้อย" Lolita

ฯลฯ

จดหมายรัก

จดหมายรัก

พิมพ์ครั้งที่ 4
จดหมายรัก (The Love Letters) รวมสุดยอดจดหมายรักคนดังและไม่ดังของโลก ฮิตสนั่นลั่นเมืองมาแล้ว จากนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ โศก ซึ้ง เศร้า สะเทือนใจ เข้มข้น หวานมันส์ จนอ่านแล้วอาจจะลาย รวมถึงจดหมายพิเศษในกล่องข้างใจ

"ได้รักเธอ ประภาคารก็ดูสวยดี คนที่ฉันกอดได้ ทำให้รู้ว่าโลกนี้สดชื่นสว่างไสว อย่าสนใจเลยนะคนดี ว่ารักเธอแล้วฉันจะกอดใคร แค่เชื่อว่าฉันรักเธอตลอดไป ...เพียงพอแล้ว" จดหมายจากเรือ ถึงประภาคาร

"ผมต่อสู้เพื่อกรรมาชน แต่ความรักของผม มิใช่ความรักของชนชั้นกรรมาชีพแต่อย่างใด หากแต่เป็นความรักสูงสุด เท่าที่มนุษย์ผู้หนึ่งจะพึงรักได้"
จดหมายรักมาร์กซิสต์

"เมื่อยังหนุ่ม ข้าพเจ้าคิดจะรัก แต่เมื่อย่างเข้าวัยชรา ข้าพเจ้ารักจะคิด การตกหลุมรักใครบางคน ไม่ใช่เรื่องี่เง่าไปเสียทั้งหมด แต่แรงปรารถนารักใคร่ ก็ไม่อาจดึงเราไปจากสิ่งที่เรามุ่งมั่นได้"
จดหมายรักไอน์สไตน์

จระเข้ ผึ้ง ตั๊กแตน โจดี้ ฟอสเตอร์ ผู้ชาย ผู้หญิง

จระเข้ ผึ้ง ตั๊กแตน
โจดี้ ฟอสเตอร์
ผู้ชาย ผู้หญิง




รวมเรื่องตลกเสียดสีแสบคันระหว่างเพศชาย หญิง ยุคบุกเบิก ว่าด้วยสงครามวาทกรรมผู้หญิงมาจากดาวศุกร์ ผู้ชายมาจากนรก เคยเป็นประเด็นร้อนแรงในมติชนสุดสัปดาห์ ตั้งแต่สมัยที่กาละแมร์ยังไม่ได้เขียนหนังสือของเธอน่ะนะ :)

"หลังเลิฟซีนของนางพญา ผึ้งสาวๆ จะลากศพผึ้งหนุ่มๆ ออกมาทิ้งนอกรังทุกวัน ส่วนผึ้งงานที่ทำ "งานบ้าน" หาอาหารเข้ารัง คือผึ้งเพศเมียที่เป็นหมัน รังผึ้งคือยูโธเปียของบรรดาเฟมินิสต์โดยธรรมชาติ"

"ผู้ชายดีกว่าหมา ผู้ชายเจ๋งที่สุด ผู้ชายเข้าห้องน้ำคนเดียวได้ ผู้ชายอยู่เป็นโสดจนครบ 36 ปีโดยไม่มีใครสังเกตก็ได้ด้วย"

"ทำไมเพศที่สามมักจะประสบความสำเร็จในชีวิตมากกว่าเพศอื่น นั่นอาจจะเป็นเพราะพวกเขามีความกดดันโดยธรรมชาติ เช่นว่าถ้ากระเทยสักคนล้มเหลวในชีวิต มันอาจจะหมายถึงความล้มเหลวในทุกๆ สิ่ง เพราะเพียงการเป็นชายจริงหญิงแท้ให้ได้นั้น พวกเขาก็ยังทำไม่สำเร็จกันเลย"

"ผู้ชายวางแผนชีวิตและอนาคตตัวเองอย่างไรบ้าง"
"อ๋อ ไม่ยาก ก็ออกไปซื้อเบียร์เพิ่มอีกครึ่งโหลไง"

สวีตหยดออนไลน์ : หนังสือหมด


สวีตหยดออนไลน์
[หนังสือหมด]

"จับต้องไม่ได้ แต่เจ็บจริง"
บันทึกประสบการณ์ โศก ซึ้ง เศร้า น้ำตาหล่น ปนขำกลิ้ง
เรื่องจริงในโลกไซเบอร์โรมานซ์
สารบัญ
I Seek You ไอซีคิวยิ้มเก่ง 14
random friend เทคโนโลยี-เสน่ห์-ชีวิตชีวา-สุ่มหาเพื่อน 21
free for chat พี่เซ็นแสนซื่อ (ซะเมื่อไหร่) 28
net addict ปู่โสมเฝ้าทรัพย์หน้าคอมพ์ 37
I lov.u, I hate u อยากฆ่าคนทางเน็ต 45
Symbolic ภาษาเน็ต ภาษาความรู้สึก 53
o dear, my Love น้ำตาหล่นบนคีย์บอร์ด 60
Loikrathong virtual ลอยกระทงในอินเตอร์เน็ต 67
Cyberstylistics ดาวน์โหลดชีวิตไซเบอร์สเปซ 74
The Chat เจ๊าะแจ๊ะออนไลน์...ตราบสิ้นลม 82
The Sins of The Net คำก็บาปสองคำก็บาป-ฮึ! 90
Heart Lines หัวใจออนไลน์ 99
The Sins of the Net พระกับอินเตอร์เน็ต 108
The Sins of the Net เรียกอาตมาว่า "พระเอก" ละกัน 117
The Sins of the Net หลวงพ่อจอห์น 126
Youve Got Mail ของจริงไม่อิงฮอลลีวู้ด 134

หนังสือชุด : สวนสวรรค์ที่สาปสูญ

Paradise Lost : Jimmy Liao
ชุตินันท์ เอกอุกฤษฎ์กุล : แปลจากภาษาจีน
'ปราย พันแสง : บรรณาธิการ



Paradise lost : Jimmy Liao
สวนสวรรค์ที่สาปสูญ

หนังสือชุดใหม่ของ "จิมมี่ เลี่ยว"ที่ได้รับการแปลเป็นภาษาไทยในปี 2549 จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์นานมี หนังสือชุดนี้ มีด้วยกันทั้งหมดห้าเล่ม มีตัวละครชุดเดียวกัน แต่ละเล่ม สามารถจบได้ในตอน เรื่องราวทั้งหมดในหนังสือชุดนี้น่ารักและมีเสน่ห์ แบบเศร้าๆ เจ็บๆ แปลกๆ ดี Paradise lost เป็นเรื่องราวมิตรภาพความผูกพัน ของสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตจำนวนหนึ่ง มารวมตัวกันอยู่ในดินแดนหนึ่ง ที่พวกเขาทุกคนล้วนเข้าอกเข้าใจกันเป็นอย่างดี แต่ละชีวิต จะมีปมด้อย มีบาดแผล มีความพิการ มีความบกพร่อง ซึ่งโลกภายนอกอาจจะปฏิเสธพวกเขา แต่ในดินแดนแห่งนี้ ทุกชีวิตมีอิสระเสรี และมีผู้ที่เข้าใจกันและกัน

ตัวอย่างตัวละครบางตัว ในเรื่องราวชุดนี้ก็ได้แก่
หมีกากบาท
หมีกากบาทถูกทำร้ายตั้งแต่เล็ก จึงมีรอยแผลอยู่เต็มตัว หากคุณถามเขาว่าเจ็บตรงไหนที่สุด เขาจะชี้ตรงหัวใจ แม้จะได้รับความทุกข์สาหัส แต่เขาก็เชื่อว่ายังมีแสงสว่าง

ผ้าพันแผล
เป็นเด็กชายที่พันผ้าพันแผลทั้งตัว เขามักฝันว่าตัวเองบินได้ และมีผีเสื้อตัวน้อยอยู่เป็นเพื่อนเสมอ

หนูดำ
เจ้าของทรมานหนูดำด้วยวิธีต่างๆ นานา แต่หนูดำก็ยังคงมีจิตใจงดงาม ในบางครั้งเจ้าของอุ้มเขาด้วยความทะนุถนอมอยู่บ้าง แต่หนูดำก็อดที่จะหวั่นกลัวไม่ได้

โทนี่หน้าบาก
โทนี่เป็นเด็กชายขี้อายเป็นที่สุด เขาเป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจ มักจะยืนนิ่งอยู่ข้างหิ้งหนังสือในห้องสมุด เขามีแต่เงาตัวเองในกระจกเป็นเพื่อน

ไข่พะโล้
ไม่ว่าจะทำอะไร ไข่พะโล้จะต้องอธิษฐานต่อพระเจ้าก่อนเสมอ ก่อนข้ามถนน หรือกระทั่งในสวนที่มีดอกไม้บานสะพรั่ง เขาก็ยังอธิษฐาน

จอห์นจมูกแดง
เขามักรู้สึกว่าโลกของเขาว่างเปล่า ไม่ว่าจะพยายามเพียงใด สุดท้ายทุกอย่างก็เป็นเพียงความฝัน เขาไม่สามารถอธิบายอะไรให้ใครฟังได้ แต่อย่างน้อย เขาก็รู้สึกสบายใจในโลกอันว่างเปล่าของตัวเอง

จูลี่
เป็นคนที่ขยันโยนขวดบรรจุข้อความที่ชายหาด ให้ลอยไปตามคลื่นอยู่เสมอ เธอวาดฝันว่าจะพบรักจากการทำเช่นนี้ แต่ขวดเหล่านั้นมักถูกคลื่นซัดกลับ

ลูกโป่ง
มักลอยไปลอยมาอยู่คนเดียว วันหนึ่งศีรษะของเขาแตกเป็นรู เจ้าหนูลูกโป่งจึงตกลงมาจากฟ้า แต่ไม่นานก็ถูกจับมัดกลับไปแขวนไว้กับต้นไม้


เหิรหาว
เหิรหาวเชอบแกล้งผู้อื่น วันวันเอาแต่หาเรื่องทะเลาะ คนอื่นบอกว่าสีดำ เธอจะบอกว่าขาว เธอเกลียดโลกแห่งความเป็นจริง ชื่นชอบโลกที่โกลาหลวุ่นวาย


โทรโข่ง
เอาแต่ป่าวประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง เที่ยวกระจายข่าวสารไปทั่ว เขาสวมหมวกกันน็อคจึงไม่ได้ยินเลยว่าเสียงไม่ได้ออกจากโทรโข่ง


แมรี่และแมวของเธอ
แมรี่เลี้ยงแมวตาโตตัวหนึ่ง แต่ละวันแมวของเธอจะมีมุมมองที่แตกต่างกันไป บางทีรู้สึกหน่าย บางทีรู้สึกเบื่อ บางทีรู้สึกว่าโลกมันน่าขัน

บอลลูน
เป็นเด็กฉลาดไอคิวสูง ฉลาดมากเสียจนไม่อยากจะเรียนรู้อะไรทั้งนั้น ทุกคนต่างชื่นชมความฉลาดของเธอ แต่เธอกลับเบื่อที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยคนโง่


ฯลฯ

Paradise Lost 1: เดียวดายในความอ้างว้าง


Enter Loneliness
Paradise Lost 1 : เดียวดายในความอ้างว้าง
ช้างสีชมพูกับแอ๊ปเปิ้ลสีทอง เป็นตัวละครเปิดเรื่องเข้าสู่สถานที่มหัศจรรย์ ช้างสีชมพูเป็นเพื่อนกับเด็กแว่น ทั้งสองตาบอด มองไม่เห็น แต่ชอบไปยืนรอพระอาทิตย์ขึ้นที่ริมหน้าต่าง ชอบนั่งบนโขดหินริมทะเล เพื่อเฝ้ามองพระจันทร์ ทอแสงสว่างไสวขึ้นมาจากผิวน้ำ ทั้งยังชอบทอดกายนอนหงายบนสนามหญ้าโรงเรียน เพื่อรอคอยดวงดาวเปล่งประกายเต็มฟ้า เด็กแว่นเป็นเจ้าของแว่นตาสายรุ้งแสนสวย เสียดายที่เธอมองไม่เห็น ช้างสีชมพูก็มีแว่นสายรุ้งเช่นกัน เสียดายที่มันก็มองไม่เห็น ทั้งสองมิอาจแลเห็นแว่นตาแสนสวยของกันและกัน แต่ตระหนักดีว่า จิตใจของทั้งสองนั้น ต่างงดงามประหนึ่งสายรุ้ง

Paradise Lost 2 : ความปวดร้าวอันงดงาม


Snow Falling in Childhood
Paradise Lost 2 : ความปวดร้าวอันงดงาม

ปกเล่มนี้ เป็น เจ้าหมีกากบาท ที่กำลังดุ่มเดินเดียวดายอยู่ในป่า หมีกากบาทโดนทำร้ายมาแต่เล็ก ร่างกายยับเยินด้วยบาดแผล หากคุณถามเขาว่าเจ็บปวดตรงไหนที่สุด เขาจะแตะตรงหัวใจ มีใครบ้างไหมที่ไม่เคยเจ็บปวดมาก่อน เขายืนยันมั่นใจ เจ็บปวดที่สุด ณ จุดใด ต้องทำแผลให้สวยที่สุดตรงจุดนั้น ทุกครั้งที่โดนทำร้าย หมีกากบาทมักซ่อนตัวในสถานที่งดงามที่สุด จินตนาการถึงช่วงเวลาแสนสุข หลังจากหลั่งน้ำตาไม่กี่หยด เขาจะแตะตรงหัวใจแล้วหยุดร้องไห้

Paradise Lost3:ดอกไม้แห่งความลับผลิบานแล้ว

A Mysterious Flower Blooms
Paradise Lost 3: ดอกไม้แห่งความลับผลิบานแล้ว
เป็นดอกไม้แห่งจินตนาการของคนเขียนที่มีครีเอทีฟไอเดียสุดยอด ภาพปกเล่มนี้ ผู้เขียนเลือกตัวละคร“แอนนี่” เป็นตัวเอก ปกสวยจริงๆโดยเฉพาะลวดลายบนต้นไม้ใบไม้ใช้สีเงินสีทองสะท้อนแสงบนพื้นปกสีดำ ลึกลับแบบสไตล์กอธิคนิดๆ วิจิตรตระการตาแบบภารตะหน่อยๆ แปลกตากว่าทุกเล่ม “แอนนี่” เป็นเด็กฉลาดแก่แดดที่สุดในเรื่องราวชุดนี้ แอนนี่รู้จักโลกของผู้ใหญ่เร็วเกินไป เกิดแก่เจ็บตาย เธอเข้าใจทั้งหมด โลกแห่งความจริงของแอนนี่ หมายถึงช่วงเวลาที่เธอได้แสดงละครเท่านั้น

Paradise Lost 4 : อัศจรรย์พลันสลาย

The Magic Is Gone

Paradise Lost 4 : อัศจรรย์พลันสลาย
เรื่องเริ่มต้นเมื่อเวทย์มนต์เสื่อมสลายไปหมดสิ้น โลกเราไม่มีแล้วความมหัศจรรย์ ไม่มีเรื่องเหลือเชื่ออะไรแล้วทั้งนั้น ตอนแรกยังคิดอยู่เลยว่าทำไมคุณเลี่ยวไม่เอาตอนนี้ไว้เป็นเล่มสุดท้ายของหนังสือชุดนี้... เพราะมันน่าจะเป็นอย่างนั้น แต่พอไปเห็นเล่มสุดท้ายจริงๆ จึงได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ คือคุณเลี่ยวเขาคงไม่ใช่คนมองโลกในแง่ร้ายเหมือนเราไง เขาเลยวางเรื่องนี้ไว้กลางๆ :) ภาพปกเล่มนี้เธอชื่อ “ราตรี” คู่กรณีของ“ทิวา”เรื่องราวของกลางคืนและกลางวันที่ต่างกันอย่างเหลือเกิน โลกของราตรีเต็มไปด้วยสีสัน โลกของทิวากลับมีเพียงขาวดำ

Paradise Lost 5: เมื่อปาฏิหาริย์เลือนหาย


The Lost Miracle
Paradise Lost 5 :เมื่อปาฏิหาริย์เลือนหาย
เด็กน้อยกับสวิงตาข่ายบนปกหนังสือคนนี้ชื่อ “ออทัม” เธอเป็นสมาชิกคนหนึ่งของดินแดนมหัศจรรย์แห่งนี้ ที่พยายามตามจับความฝันของเธอเอง ออทัมเติบโตมากับคุณปู่ พออายุได้หกขวบ คุณปู่มอบสวิงจับผีเสื้อที่คุณปู่ทำเองให้เธอเป็นของขวัญ วันต่อมาคุณปู่เสียชีวิตกะทันหัน คืนนั้นออทัมฝันเห็นคุณปู่ของเธอส่งยิ้มให้ พลางพูดว่า “จับชีวิตที่สวยงามไว้ให้ดี!”เธอตื่นขึ้นมาทั้งน้ำตา กอดของขวัญจากคุณปู่ไว้แน่น แล้วสาบานว่า เธอจะใช้เวลาทั้งชีวิตไล่จับความสวยงามที่ไม่จีรังเอาไว้ให้ได้

The Blue Stone : โลกเหงาของหินสีฟ้า


The Blue Stone : Jimmy Liao
ชุตินันท์ เอกอุกฤษฏ์กุล : แปลจากภาษาจีน
'ปราย พันแสง : บรรณาธิการ


เป็นหนังสืออีกเล่มของ จิมมี่ เลี่ยว ที่ออกวางจำหน่ายพร้อมกับหนังสือชุด Paradise Lost "โลกเหงาของหินสีฟ้า" เป็นเรื่องราวของหินสีฟ้าก้อนหนึ่ง ที่แตกออกเป็นสองซีก ซีกหนึ่งถูกทิ้งไว้ในป่าลึก อีกซีกหนึ่งถูกพาเข้ามาอยู่ในเมืองใหญ่ แล้วก็ถูกแปรรูป ถูกทำให้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทำให้มันเหงาแล้วก็คิดถึงอีกครึ่งที่เหลืออยู่ตลอดเวลา จะว่าไปแล้ว หนังสือเล่มนี้ก็คือ The Missing Piece ของ เชล ซิลเวอร์สไตน์ที่เอามาเขียนใหม่แบบคนตะวันออกดีๆ นี่เอง อาจจะเป็นเพราะจิตวิญญาณแบบเอเชีย ที่เรียกร้องสิ่งต่างๆ จากชีวิตน้อยกว่าคนตะวันตกกระมัง อ่านแล้วจึงรู้สึกว่ามันเป็นความไม่สมบูรณ์แบบที่เจียมเนื้อเจียมตัวดี ถ้าแอบรักใครชอบใคร หนังสือเล่มนี้เหมาะมากที่จะเป็นหนังสือบอกความในใจว่าเรารัก โดยมีหมายเหตุที่มองไม่เห็นว่า รักและคิดถึงนะ แต่ไม่ได้เรียกร้องต้องการอะไรจากเธอเลยนะ เป็นหนังสือที่น่ารักมากๆ