passion cafe'
ชีวิตก็เหมือนคาเฟ่ริมทาง
บางครั้งเนืองแน่น บางครั้งอ้างว้าง
มีคนผ่านมา มีคนผ่านไป
ใครจดจำ ใครลืมเลือน
ย่อมมิใช่เรื่องใหญ่
หากช่วงเวลาที่พบกัน
ได้เปิดดวงตา เผยดวงใจ
หมดจดหมดใจ
...แล้วจากกัน
.....
คาเฟ่เสน่หา (passion cafe')
รวมบทความชุดใหม่ล่าสุดของ'ปราย พันแสง ว่าด้วยสารพัดเรื่องราวแห่งเสน่หาที่โลดแล่นในวังวนชีวิต มิใช่ความรักอย่างเดียวที่ทำให้คนเราตาบอด แต่ยังมีความปรารถนาลึกลับซ่อนอยู่ลึกเร้นข้างในใจ ดูเหมือนไร้จุดเริ่มต้น ไร้จุดสิ้นสุด แต่กลับฉุดกระชากลากถูความเป็นมนุษย์ของเราจนแทบมิอาจต้านทาน
........
[คำคนเขียน]
ตอนเด็กๆ ฉันเคยได้ยินสำนวนที่ว่า “สิ่งที่แน่นอนคือความไม่แน่นอน” อยู่บ่อยครั้ง ก็รู้สึกตลกดี แต่ก็ไม่ได้รู้สึกถึงความหมายของมันอย่างลึกซึ้งเท่าใดนัก
วันเวลาผ่านเลยจนเป็นผู้ใหญ่ หลายเรื่องราวที่ผ่านพบในชีวิต มักสะกิดใจให้ฉันได้ตระหนักถึงความไม่แน่นอนของชีวิตอยู่เสมอ ถึงแม้ไม่ได้ฝักใฝ่ธรรมมะอย่างเป็นกิจลักษณะ แต่ก็เชื่อว่า “กฎแห่งอนิจจัง” ดังคำพระท่านว่าไว้นั้นช่างเป็นสัจจะอย่างจริงแท้
นอกจากนี้ ฉันยังไม่เชื่อเรื่องความสมบูรณ์แบบของมนุษย์ ความสมบูรณ์แบบอาจจะมีจริง แต่มนุษย์เราไม่เคยสมบูรณ์แบบ และไม่มีวันไปถึงความสมบูรณ์แบบได้อย่างแท้จริง
แต่ถึงแม้ไปไม่ได้ ไปไม่ถึง
แต่เราก็ต้องรู้ว่าความสมบูรณ์แบบคืออะไร
ฉันไม่เชื่อเรื่องความมั่นคง เพราะไม่มีอะไรมั่นคง ฉันไม่เชื่อเรื่องความเป็นนิรันดร์ เพราะไม่มีอะไรเป็นนิรันดร์ สิ่งเดียวที่ฉันเชื่อเกี่ยวกับเรื่องราวพวกนี้ก็คือ “ขณะนี้” หรือ “ปัจจุบัน” โดยเฉพาะเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์เรา จะดีหรือร้ายก็เป็นเพียง “ขณะนี้” ก่อนหรือหลังจากนี้ล้วนแล้วแต่เป็นมายาทั้งสิ้น
นั่นคือที่มาของเรื่องราวต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ในหนังสือเล่มนี้
บทความใน คาเฟ่เสน่หา (Passion Cafe') เป็นงานที่เคยตีพิมพ์ในนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์และใน บล็อก'ปราย พันแสง ซึ่งการคัดเลือกมารวมไว้ในเล่มนี้ ฉันคัดสรรตามเนื้อหาของมัน ที่เกี่ยวข้องโยงใยกับความปรารถนาที่ไม่เคยมีจุดสิ้นสุดของมนุษย์เรา
งานเขียนที่เคยตีพิมพ์ลงในมติชนสุดสัปดาห์นั้น ระยะห่างระหว่างคนเขียนกับคนอ่านจะมีมากกว่างานเขียนที่ลงบล็อก ทั้งนี้ก็เนื่องจากรูปแบบของบล็อกนั้นมีความส่วนตัวสูง เมื่ออ่านแล้วอาจจะรู้สึกว่าสิ่งที่เขียนนั้นมัน “ส่วนตัว” มาก เมื่อนำมารวมอยู่ในเล่มเดียวกัน ถ้าอ่านเรียงต่อๆ กันไป อาจจะรู้สึกถึงความแตกต่างนั้นได้ชัดเจนขึ้น
อันที่จริงเป็นความตั้งใจของฉันเอง ที่ต้องการนำเรื่องราวที่เขียนขึ้นต่างเวลา ต่างวาระ ต่างสื่อเหล่านี้มาอยู่รวมกันเป็นที่เป็นทางสักครั้ง ค่าที่ว่าในระยะหลังนี้ฉันมักจะใช้ “บล็อก” เป็นสื่อหลักสำหรับเผยแพร่งานเขียนของตัวเอง เนื่องจากมันสะดวก และไม่ผูกมัดเรื่องเวลาส่งงานมากนัก ถ้าคุณๆ จะแวะเข้าไปเยี่ยมเยียนทักทายกันบ้าง ก็ยินดีต้องรับอย่างยิ่งค่ะ
’ปราย พันแสง
ฟรีฟอร์ม,มีนาคม 2551
วันเวลาผ่านเลยจนเป็นผู้ใหญ่ หลายเรื่องราวที่ผ่านพบในชีวิต มักสะกิดใจให้ฉันได้ตระหนักถึงความไม่แน่นอนของชีวิตอยู่เสมอ ถึงแม้ไม่ได้ฝักใฝ่ธรรมมะอย่างเป็นกิจลักษณะ แต่ก็เชื่อว่า “กฎแห่งอนิจจัง” ดังคำพระท่านว่าไว้นั้นช่างเป็นสัจจะอย่างจริงแท้
นอกจากนี้ ฉันยังไม่เชื่อเรื่องความสมบูรณ์แบบของมนุษย์ ความสมบูรณ์แบบอาจจะมีจริง แต่มนุษย์เราไม่เคยสมบูรณ์แบบ และไม่มีวันไปถึงความสมบูรณ์แบบได้อย่างแท้จริง
แต่ถึงแม้ไปไม่ได้ ไปไม่ถึง
แต่เราก็ต้องรู้ว่าความสมบูรณ์แบบคืออะไร
ฉันไม่เชื่อเรื่องความมั่นคง เพราะไม่มีอะไรมั่นคง ฉันไม่เชื่อเรื่องความเป็นนิรันดร์ เพราะไม่มีอะไรเป็นนิรันดร์ สิ่งเดียวที่ฉันเชื่อเกี่ยวกับเรื่องราวพวกนี้ก็คือ “ขณะนี้” หรือ “ปัจจุบัน” โดยเฉพาะเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์เรา จะดีหรือร้ายก็เป็นเพียง “ขณะนี้” ก่อนหรือหลังจากนี้ล้วนแล้วแต่เป็นมายาทั้งสิ้น
นั่นคือที่มาของเรื่องราวต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ในหนังสือเล่มนี้
บทความใน คาเฟ่เสน่หา (Passion Cafe') เป็นงานที่เคยตีพิมพ์ในนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์และใน บล็อก'ปราย พันแสง ซึ่งการคัดเลือกมารวมไว้ในเล่มนี้ ฉันคัดสรรตามเนื้อหาของมัน ที่เกี่ยวข้องโยงใยกับความปรารถนาที่ไม่เคยมีจุดสิ้นสุดของมนุษย์เรา
งานเขียนที่เคยตีพิมพ์ลงในมติชนสุดสัปดาห์นั้น ระยะห่างระหว่างคนเขียนกับคนอ่านจะมีมากกว่างานเขียนที่ลงบล็อก ทั้งนี้ก็เนื่องจากรูปแบบของบล็อกนั้นมีความส่วนตัวสูง เมื่ออ่านแล้วอาจจะรู้สึกว่าสิ่งที่เขียนนั้นมัน “ส่วนตัว” มาก เมื่อนำมารวมอยู่ในเล่มเดียวกัน ถ้าอ่านเรียงต่อๆ กันไป อาจจะรู้สึกถึงความแตกต่างนั้นได้ชัดเจนขึ้น
อันที่จริงเป็นความตั้งใจของฉันเอง ที่ต้องการนำเรื่องราวที่เขียนขึ้นต่างเวลา ต่างวาระ ต่างสื่อเหล่านี้มาอยู่รวมกันเป็นที่เป็นทางสักครั้ง ค่าที่ว่าในระยะหลังนี้ฉันมักจะใช้ “บล็อก” เป็นสื่อหลักสำหรับเผยแพร่งานเขียนของตัวเอง เนื่องจากมันสะดวก และไม่ผูกมัดเรื่องเวลาส่งงานมากนัก ถ้าคุณๆ จะแวะเข้าไปเยี่ยมเยียนทักทายกันบ้าง ก็ยินดีต้องรับอย่างยิ่งค่ะ
’ปราย พันแสง
ฟรีฟอร์ม,มีนาคม 2551